แน่นอนว่าเมื่อรองเท้าผ้าใบคู่โปรดของคุณถูกใส่ไปไหนมาไหนอยู่เป็นประจำก็ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดความสกปรกรวมไปถึงอาจจะมีกลิ่นเหม็นอับขึ้นมาได้ โดยเฉพาะถ้าหากมีการใส่รองเท้าผ้าใบไปในช่วงวันที่มีฝนตก หรือออกไปยังบริเวณที่สามารถทำให้รองเท้าเลอะเทอะได้ง่าย เรียกได้ว่าเป็นงานยากเลยทีเดียว และที่สำคัญก็คือถ้าหากอยากให้รองเท้าผ้าใบสะอาดดูดีไม่มีกลิ่นเหม็นอับก็จำเป็นที่จะต้องมีการซักทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบเป็นระยะ ซึ่งถ้าหากทำไม่ถูกวิธีแทนที่รองเท้าจะสะอาดขึ้นก็อาจกลายเป็นว่าทำให้รองเท้าเกิดความเสียหายยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมก็ได้ วันนี้เราจึงมี 6 ขั้นตอนทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบคู่โปรดให้ดูเหมือนใหม่อยู่เสมอมาฝากกัน
การที่จะทำให้รองเท้าผ้าใบคู่โปรดของเราดูเหมือนใหม่อยู่เสมอแม้จะต้องมีการหยิบมาใส่อยู่เป็นประจำนั้นก็อาจดูเป็นเรื่องที่ไปกันไม่ได้เพราะสิ่งของเมื่อมีการใช้งานบ่อยๆ ก็ย่อมต้องมีการเก่าและเสื่อมไปตามสภาพการใช้งาน โดยเฉพาะการทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบที่เมื่อใส่ออกไปแล้วอาจจะต้องเจอกับทั้งสิ่งสกปรก คราบน้ำ ดิน ฝุ่น หรือรอยเปื้อนต่างๆ ซึ่งถ้าได้รับการดูแลเป็นระยะๆ ก็จะช่วยทำให้รองเท้าผ้าใบสามารถคงสภาพเดิมได้มากที่สุด ซึ่งขั้นตอนในการทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบด้วยตนเองก็มีอยู่ด้วยกัน 6 ขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ขจัดสิ่งสกปรกเบื้องต้นด้วยการใช้แปรงแบบแห้ง
ในการทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบในขั้นตอนแรกนั้น ให้เราใช้แปรงขัดรองเท้าหรือแปรงสีฟันจัดการทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่หลุดได้ง่ายให้หลุดออกจากรองเท้าเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณพื้นรองเท้าด้านนอก พื้นรองเท้าด้านใน ขอบรองเท้า รวมไปถึงบริเวณต่างๆ ที่สามารถใช้แปรงแบบแห้งกำจัดออกไปได้ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกไปให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการทำความสะอาดในขั้นต่อไป
2. ใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยน
วิธีเตรียมน้ำยาทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบสูตรอ่อนโยนก็ทำได้ไม่ยาก ถ้าหากที่บ้านของคุณมีผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจานก็ให้ใช้น้ำอุ่นผสมกับผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจานเล็กน้อยก็สามารถนำมาใช้ได้แล้ว แต่ถ้าหากเป็นรองเท้าผ้าใบที่มีสีอ่อนหรือสีขาวก็แนะนำให้ใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 ก็จะช่วยให้รองเท้าผ้าใบดูสะอาดขึ้น และไม่ทำให้สีรองเท้าหมอง
3. แกะเชือกผูกรองเท้าออกแล้วซักด้วยมือ
หากรองเท้าผ้าใบของคุณมีเชือกผูกรองเท้าอยู่ด้วย การทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบก็แนะนำให้แกะเชือกผูกรองเท้าออกเสียก่อน จากนั้นให้นำเชือกผูกรองเท้ามาซักทำความสะอาดกับน้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนที่เตรียมเอาไว้ วิธีการก็คือให้ใช้มือนวดเชือกรองเท้าที่แช่อยู่ในน้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนเบาๆ เพื่อขจัดคราบและสิ่งสกปรกต่างๆ ที่ติดอยู่บริเวณเชือกผูกรองเท้าให้ออกไป จากนั้นก็ล้างด้วยน้ำสะอาดแล้วใช้ผ้านุ่มๆ ซับให้แห้ง
4. ซักบริเวณพื้นรองเท้าให้ครบทุกชั้น
โดยทั่วไปแล้วรองเท้าผ้าใบก็จะมีพื้นรองเท้าอยู่มากกว่าหนึ่งชั้น วิธีการซักพื้นรองเท้าก็ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนที่เตรียมไว้กับแปรงขนอ่อนหรือแปรงสีฟัน ในที่นี้ก็อาจจะใช้ผ้าขนหนูในการซักก็ได้ โดยให้ทำความสะอาดพื้นรองเท้าชั้นนอกให้ทั่วทุกส่วนอย่างเบามือ จากนั้นให้ใช้ผ้าสะอาดนุ่มๆ ซับให้แห้ง และถ้าต้องการซักพื้นรองเท้าชั้นในด้วยก็ให้ทำการนำเอาพื้นรองเท้าที่ใส่อยู่ด้านในรองเท้าออกมาก่อน จากนั้นก็ใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนทำความสะอาดให้ทั่วแล้วถึงทิ้งไว้ให้แห้งก่อนที่จะนำกลับเข้าใส่ไปในรองเท้าตามเดิม
5. ซักทำความสะอาดบริเวณรองเท้าด้านบน
การทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบเมื่อทำความสะอาดพื้นรองเท้าเสร็จแล้วก็ให้ทำความสะอาดส่วนด้านบนของรองเท้าผ้าใบซึ่งโดยปกติแล้วก็จะใช้วัสดุเป็นผ้าชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความบอบบางมากกว่าวัสดุที่ใช้ทำพื้นรองเท้า ดังนั้นการทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบในส่วนนี้ก็จะต้องค่อยๆ ทำด้วยความเบามือ โดยให้ใช้แปรงขนนุ่ม หรืออาจจะเป็นแปรงสีฟันรวมไปถึงผ้าขนหนู ทำการชุบน้ำยาทำความสะอาดหมาดๆ ค่อยๆ เช็ดเอาคราบสกปรกต่างๆ ที่ติดอยู่ส่วนด้านบนของรองเท้าผ้าใบออกให้หมด พยายามอย่าใช้แรงมากจนเกินไปเพราะจะทำให้รองเท้าผ้าใบเสียหายได้ เมื่อทำความสะอาดดีแล้วก็ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้านุ่มๆ ที่สะอาด นำมาซับด้านบนของรองเท้าผ้าใบให้แห้งเพื่อให้น้ำยาทำความสะอาดที่ใช้และสิ่งสกปรกหลุดออกไปให้ได้มากที่สุด ที่สำคัญคือห้ามทำการถูไปมาเด็ดขาดเพราะจะทำให้เนื้อผ้าของรองเท้าผ้าใบเกิดความเสียหายและอาจทำให้สิ่งสกปรกกระจายตัวออกไปติดอยู่ตามเนื้อผ้าของรองเท้าผ้าใบได้
6. ผึ่งรองเท้าผ้าใบให้แห้ง
เมื่อทำการซักทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้นำรองเท้าผ้าใบผึ่งให้แห้งที่อุณหภูมิห้อง ไม่ควรนำออกไปตากแดดเพราะอาจทำให้วัสดุของรองเท้าผ้าใบเกิดความเสียหายรวมไปถึงถ้าหากเป็นรองเท้าผ้าใบสีอ่อนก็จะทำให้เกิดคราบเหลืองหลังการซักขึ้นมาได้ ซึ่งโดยปกติแล้วการผึ่งรองเท้าผ้าใบให้แห้งที่อุณหภูมิห้องก็จะใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยถึงจะแห้งสนิท ซึ่งก่อนที่จะนำรองเท้าผ้าใบไปเก็บหรือนำไปใส่ก็ต้องให้มั่นใจเสียก่อนว่ารองเท้าผ้าใบที่คุณซักทำความสะอาดแล้วนั้นแห้งสนิทดีจริงๆ เพราะไม่อย่างนั้นอาจทำให้เกิดกลิ่นอับอันไม่พึงประสงค์ขึ้นมาได้
ข้อควรระวังในการทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบ
และนอกจาก 6 ขั้นตอนการทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบในข้างต้นแล้ว ก็ยังมีข้อพึงระวังสำหรับการทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบที่ใช้วัสดุบางประเภทอย่างเช่นรองเท้าผ้าใบที่เป็นรองเท้าหนัง อาจจะต้องมีการใช้น้ำยาบำรุงหนังเพื่อขจัดคราบรวมไปถึงใช้ฟองน้ำที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการทำความสะอาดหนังโดยเฉพาะ และยิ่งถ้าหากเป็นรองเท้าผ้าใบแบบหนังกลับก็ยิ่งจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะเป็นวัสดุที่เลอะคราบได้ง่ายและทำความสะอาดยาก ซึ่งในการทำความสะอาดก็จำเป็นต้องใช้วัสดุอุปกรณ์รวมไปถึงเครื่องมือสำหรับการทำความสะอาดโดยเฉพาะ ในขณะที่รองเท้าผ้าใบแบบผ้าถักก็เป็นรองเท้าที่เนื้อผ้ามีความบอบบางและต้องใช้ความระมัดระวังในการทำความสะอาดเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้สำหรับใครที่รู้สึกว่าตนเองไม่มีเวลาทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบก็อาจจะใช้วิธีลัดด้วยการโยนรองเท้าผ้าใบเข้าเครื่องซักผ้าเป็นอันจบ ถึงแม้จะเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกแต่ต้องบอกว่าเป็นวิธีการที่ทำร้ายรองเท้าผ้าใบให้เสียหายเร็วขึ้นเพราะแรงที่เกิดจากการปั่นซักสามารถทำให้วัสดุรองเท้าผ้าใบเสียหายและทำให้รองเท้าเกิดการผิดรูปขึ้นมาได้
จะเห็นได้ว่าการทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบนั้นดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่การที่จะทำให้สะอาด ดูเหมือนรองเท้าใหม่และใช้งานได้นานนั้น จริงๆ แล้วกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด โดยเฉพาะรองเท้าผ้าใบแบรนด์เนมต่างๆ ที่มีราคาค่อนข้างแพง การทำความสะอาดในบางครั้งก็อาจจำเป็นจะต้องใช้วัสดุอุปกรณ์รวมไปถึงเทคนิคจากผู้ที่มีความชำนาญการในการทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบโดยเฉพาะ ดังนั้นทางที่ดีแนะนำให้ใช้บริการมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญการทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบโดยเฉพาะอย่าง THE BAG AND SHOE SPA ของเราจะดีกว่า เพราะเราคือร้านสปากระเป๋าและเครื่องหนังทุกชนิด แฟรนไชส์จากประเทศสิงคโปร์ที่พร้อมดูแลรองเท้าผ้าใบคู่โปรดของคุณอย่างครบวงจรโดยช่างผู้ชำนาญงานอย่างมืออาชีพ รับรองได้ว่ารองเท้าผ้าใบของคุณจะดูสะอาดเหมือนใหม่และใส่ได้ไปอีกนานอย่างแน่นอน