เชื่อได้เลยว่าใครใครก็อยากได้กระเป๋าแบรนด์เนมคุณภาพดีมาใช้งานกัน แต่ในบางครั้งการจะซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมของใหม่มือ 1 ก็อาจมีราคาที่สูงเกินงบประมาณไปอยู่บ้าง ดังนั้นหลายคนจึงหันมาเลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองมาใช้งานกันแทน เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นมือสอง แต่สิ่งที่ได้ก็ยังคงเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมที่มาพร้อมคุณภาพและวัสดุคุณภาพดีรวมไปถึงมีความสวยงามและก็ยังคงเป็นของแบรนด์เนมแท้อยู่เหมือนเดิม และที่สำคัญเลยก็คือส่วนใหญ่คนที่ใช้กระเป๋าแบรนด์เนมก็ค่อนข้างจะมีการใช้งานแบบรักษาและถนอมกระเป๋ากันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว นั่นหมายความว่าในบางครั้งก็อาจทำให้คุณได้กระเป๋าแบรนด์เนมที่มีสภาพดีไม่ต่างจากของใหม่กันเลยทีเดียว และสำหรับใครที่กำลังมองหากระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง วันนี้เราก็มีข้อมูลที่ควรจะต้องรู้เกี่ยวกับการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง มาฝากกันค่ะ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง
เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็หันมาใช้ของมือสองกันทั้งนั้น รวมไปถึงการซื้อกระเป๋าด้วย ดังนั้นก่อนที่จะมองหากระเป๋าแบรนด์เนมมือสองเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองกันสักเล็กน้อยเสียก่อน
การใช้ของมือสองไม่ใช่เรื่องน่าอาย ใครๆ ก็ใช้กัน
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าของมือสองก็คือของที่ผ่านการใช้แล้วนำมาขายต่อ แต่ก็ใช่ว่าของที่ถูกคนอื่นใช้มาแล้วจะไม่ใช่ของไม่ดีหรือของเก่าเสมอไป เพราะอันที่จริงแล้วเมื่อเราใช้ข้าวของต่างๆ ก็คงไม่มีใครคอยมานั่งจับผิดหรอกค่ะว่านี่เป็นของมือสองใช่หรือเปล่า เพราะถึงจะเป็นของมือหนึ่งแต่เมื่อมีการใช้งานไปนาน ๆ ก็มีสภาพที่ผ่านการใช้แล้วเหมือนกับของมือสองอยู่ดี ดังนั้นการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองมาใช้ก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกอายหรือเขินเมื่อนำมาใช้แต่อย่างใดเพราะใครๆ เขาก็ใช้กัน แถมยังทำให้เราได้กระเป๋าแบรนด์เนมคุณภาพดีในราคาที่ไม่แพงมากจนเกินไปอีกด้วย
เลือกดูดีๆ อาจได้แรร์ไอเทมมาอยู่ในมือ
ในบางครั้งกระเป๋าแบรนด์เนมก็จะมีล็อตการผลิตที่เป็นรุ่น Limited ออกมาวางจำหน่าย หรือกระเป๋าแบรนด์เนมบางยี่ห้ออย่างเช่น Hermès ก็มักจะมีการผลิตออกมาแค่จำนวนหนึ่งแล้วไม่ผลิตเพิ่มอีก แน่นอนว่าถ้าหากหมดระยะเวลาที่จำหน่ายรุ่นนั้นๆ ลงไปก็จะทำให้กลายเป็นรุ่นที่หาซื้อมือหนึ่งไม่ได้และกลายเป็นของหายาก ถึงแม้ว่าคุณจะมีเงินแต่ก็ไม่สามารถหาซื้อมือหนึ่งรุ่นนั้นได้อีกแล้ว ดังนั้นการเลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองก็อาจจะทำให้คุณสามารถเจอรุ่นที่เลิกผลิตหรือจำหน่ายหมดไปแล้วและกำลังเป็นที่ต้องการมาวางขายอยู่ก็เป็นได้
ราคาดีสามารถเก็งกำไรได้
อย่างที่บอกไปแล้วว่ากระเป๋าแบรนด์เนมบางรุ่นไม่สามารถหาซื้อแบบมือหนึ่งได้ ดังนั้นการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองนอกจากจะสามารถซื้อกระเป๋าได้ในราคาที่ต่ำกว่าปกติแล้ว ก็ยังสามารถซื้อเพื่อนำมาเก็งกำไรขายต่อได้อีกด้วย เพราะถือได้ว่ากระเป๋าแบรนด์เนมนั้นเป็นสินค้าที่มีมูลค่าโดยเฉพาะรุ่นที่หายากบอกได้เลยว่าดีไม่ดีกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองบางรุ่นอาจขายได้ราคาที่สูงกว่าการซื้อมือหนึ่งด้วยซ้ำไป
อย่าเห็นแก่ราคาถูกจนลืมดูความเหมาะสม และต้องระวังมิจฉาชีพด้วย
ในบางครั้งหลายคนตัดสินใจซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองเพราะเห็นว่าราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับของมือหนึ่งแต่ก็อาจจะลืมคิดไปว่ากระเป๋าแบรนด์เนมมือสองบางรุ่นก็ไม่เหมาะหรือไม่ค่อยตรงกับความต้องการของตนเองสักเท่าไหร่ ดังนั้นทางที่ดีถ้าไม่ได้ซื้อมาไว้ขายต่อเก็งราคา ก็ควรที่จะดูว่ากระเป๋ารุ่นที่เราเลือกนั้นเหมาะสมและตรงกับความต้องการของเราหรือไม่ก่อนที่จะไปพิจารณาในเรื่องของราคา และที่สำคัญก็คือระวังเรื่องมิจฉาชีพให้ดีเพราะบางทีเราอาจจะได้กระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่เป็นของก๊อปเกรด Mirror ในราคาแพงเหมือนของจริงก็เป็นได้
5 ข้อที่ต้องรู้ ก่อนซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง
เพื่อเป็นการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองให้ได้ของดีและไม่ถูกหลอก เรามี 5 ข้อที่ต้องรู้ก่อนซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองดังนี้
1. ตรวจดูสภาพกระเป๋าให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสภาพโดยรวม รอยขีดข่วน คราบเปื้อน สีสัน ปีที่ผลิต เพราะสิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้ราคาของกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งถ้าหากมีตำหนิเยอะราคาก็จะลดลงตามไปด้วย
2. ตรวจเช็คโลโก้ของกระเป๋าแบรนด์เนมและฝีเข็มให้ดี โดยทั่วไปแล้วกระเป๋าแบรนด์เนมจะมีจุดสังเกตง่ายๆ ก็คือตัว Logo Stamp ของแต่ละยี่ห้อ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ตรงนี้เราก็จะต้องไปทำการบ้านมาก่อนว่าของแท้นั้นเป็นแบบไหน และจะต้องดูด้วยว่า made in ที่ไหน รวมไปถึงเช็คจำนวนฝีเข็มของกระเป๋าแต่ละรุ่นว่ามีจุดเด่นเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าหากไม่ตรงกับที่ของแท้มีก็เป็นไปได้ว่าคุณเจอของปลอมเข้าให้แล้ว
3. พยายามมองหา Date Code ที่ซ่อนเอาไว้ โดยปกติแล้วกระเป๋าแบรนด์เนมแทบจะทุกรุ่นก็จะมี Date Code ซ่อนเอาไว้เกือบทุกใบ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องไปหาดูว่ากระเป๋าแบรนด์เนมมือสองยี่ห้อที่คุณเลือกมี Date Code ซ่อนเอาไว้อยู่ตรงไหน อย่างเช่นกระเป๋า Hermès ก็จะมี Date Code เป็นแบบแสตมป์ปั้มเอาไว้อยู่ด้านในของสายสะพายกระเป๋าเป็นตัวเลขและตัวอักษรภาษาอังกฤษ กระเป๋า Channel ก็จะมี Date Code เป็นป้าย Tag อยู่ในกระเป๋าด้านล่าง ส่วนกระเป๋า Louis Vuitton ก็จะมีจุดที่ซ่อน Date Code แตกต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะอยู่ตามขอบกระเป๋า สายกระเป๋า หรือห่วงกระเป๋าเป็นต้น
4. อย่าลืมเช็ค Serial Number กระเป๋าแบรนด์เนมโดยปกติแล้วจะมีตัวการ์ดหรือพวกใบเสร็จมาให้อยู่แล้วตอนซื้อ ดังนั้นในการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองก็จำเป็นที่จะต้องขอดู Serial Number รวมไปถึงใบการ์ดและ Tag ในกระเป๋า ซึ่งจะต้องมีตัวเลขที่ตรงกัน นอกจากนี้ตัวการ์ดที่ให้มาในตอนซื้อกระเป๋าก็ต้องเช็คดูด้วยว่าเหมือนกับของแท้หรือไม่ ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องให้ผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระเป๋าแบรนด์เนมมาช่วยดูให้ก็ได้
5. เลือกซื้อกับร้านที่ไว้ใจได้ ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถดูออกว่ากระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่ตนเองซื้อนั้นเป็นของแท้หรือของก๊อป เพราะเดี๋ยวนี้ของก๊อปก็ทำออกมาเหมือนของจริงเสียเหลือเกิน ดังนั้นเพื่อเป็นการการันตีและสร้างความมั่นใจในการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง การเลือกซื้อกับร้านที่ไว้ใจได้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
สำหรับใครที่กำลังคิดจะซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองและต้องการผู้ช่วยในการฝากซื้อ-ฝากขาย กระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง THE BAG AND SHOE SPA ขออาสาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะทำให้คุณได้กระเป๋าที่เข้าตา ในราคาที่เข้าใจ รวมถึงเรายังมีบริการสปากระเป๋าและเครื่องหนังทุกชนิดเพื่อให้คงสภาพเหมือนใหม่ใช้งานได้ยาวนานคุ้มค่าเงิน โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Lineid : @thebagandshoespa
แอดไลน์ คลิ๊ก Line @ : https://line.me/R/ti/p/%40thebagandshoespa
Facebook : TheBagAndShoeSpa
Tel. 093-282-4539
“THE BAG AND SHOE SPA เรื่องกระเป๋า เราคือมืออาชีพ”